J.M. WESTON สุดยอดแบรนด์รองเท้าระดับสูงจากประเทศฝรั่งเศสที่ก่อตั้งเมื่อปี 1891 มีรองเท้าที่เป็นรุ่นที่โด่งดังที่มองแล้วรู้เลยว่าเป็น J.M. WESTON บล็อกเกอร์ทั่วโลกต่างชื่นชมความยอดเยี่ยมของแบรนด์นี้ เพราะเค้าผสมผสานทั้งความสวยงามและความสบายเข้าไปด้วยกันได้อย่างลงตัว
บทความนี้จะมารีวิวรุ่น J.M. WESTON 641 Golf Derby Dark Brown Soft Calfskin รุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เหมาะกับการแต่งตัวสไตล์ Casual
ข้อมูลของแบรนด์
J.M. WESTON คือแบรนด์ Luxury Shoemaker จากฝรั่งเศส ก่อตั้งเมื่อปี 1891 โดย Édouard Blanchard ซึ่งผลิตรองเท้าคุณภาพสูงเป็นหลัก ในยุคที่ธุรกิจแฟชั่นเริ่มเฟื่องฟู เขาได้ร่วมมือกับลูกชาย Eugene Blanchard พา J.M. WESTON ไปที่สหรัฐอเมริกา
แบรนด์ J.M. WESTON ได้รับความนิยมมาก เพราะเป็นรองเท้าที่สวยงาม มีสไตล์เป็นของตัวเอง คุณภาพการผลิตที่ดีทำให้คนให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก จนปี 1946 เค้าได้ผลิต Moccasin 180 หรือตัว Penny Loafer ออกมา ทำให้รุ่นนี้โด่งดังมากจนกลายเป็นรุ่น Iconic ของแบรนด์
ปี 1955 รุ่น Golf Derby 641 ได้ถูกผลิตขึ้นครั้งแรก จากการปรับปรุงมาจากรุ่น Sportsmen แล้วก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นรุ่น Iconic อีกรุ่น
นอกจาก Moccasin 180 และ Golf Derby 641 ยังมีอีกสองรุ่นที่นิยมมาก คือ Hunt Derby 677 และ Half Hunt Derby 598 ที่เป็นสุดยอดรองเท้าสุดคลาสสิกตลอดกาลของแบรนด์
รูปแบบของรองเท้า (Style)
หุ่นรองเท้า (Last)
ด้านหลังเท้า (Counter)
ส่วนด้านหลังจะเป็นลักษณะกลม เข้ากับลุคของรองเท้าที่มีความ Casual สบาย ๆ ทรงของรองเท้าจึงดูเป็นทรงที่เน้นความสบายเป็นหลัก
แต่รายละเอียดที่ซ่อนอยู่คือ การเสริมแผ่นหนังเข้าไปที่ส่วนของรอยเย็บด้านล่าง ทำให้มีลักษณะเป็นแท่งอยู่ตรงกลาง ซึ่งผมไม่ทราบจริง ๆ ว่าเค้าใช้วิธีไหนในการตัดเย็บ แต่เป็นดีเทลที่ล้ำลึกมาก
นอกจากนั้น การเดินตะเข็บส่วนด้านบนยังเป็นตะเข็บคู่ที่สร้างความแข็งแรงและความสวยงามได้เป็นอย่างดี
วัสดุ (Material)
วัสดุของรองเท้าคู่นี้ คือ Dark Brown Soft Calfskin หนังลูกวัวที่มีความละเอียดและ มีรูขุมขนที่เล็ก ทำให้มีความเงาอยู่ในตัว ไม่ต้องขัดเงาก็ขึ้นเงาสวยได้เอง ความนิ่มและละเอียดของหนังลูกวัวทำให้การใส่นั้นสบายมาก แรงต้านระหว่างการเดินก็ต่ำ ใส่เดินนาน ๆ ก็ไม่รู้สึกเจ็บ
ในด้านการฟอก หนังของ J.M. WESTON ใช้โรงฟอกที่เป็นของตัวเองในประเทศฝรั่งเศส สีน้ำตาลของรองเท้าคู่นี้ แม้จะเป็น Dark Brown แต่ก็ไม่เข้มมากจนเกือบดำแบบแบรนด์อื่น ๆ ทำให้หนังสีสวยงามมีมิติ
หนังของ J.M. WESTOM มีความหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีกลิ่นของหนังผสมกับกลิ่นของรากไม้ ซึ่งเกิดจากการฟอกด้วยวิธีการ Vegetable tanned ซึ่งผมกล้ายืนยันเลยว่าคุณภาพหนังของแบรนด์ J.M. WESTON คือที่สุดแล้วเท่าที่ผมเคยเจอมา
นอกจากนี้ ด้ายที่ใช้ตัดเย็บก็เป็นด้ายสีน้ำตาลที่เหมือนกับหนัง เส้นด้ายมีขนาดเล็กมาก การเดินจักรมีความถี่และสวยงาม มีทั้งการเดินด้ายเดี่ยวและด้ายคู่ นับเป็นงานละเอียดมาก
ซับใน (Lining)
หนัง Calf skin สีน้ำตาลอ่อนออกไปทางเหลือง คือวัสดุซับในของรองเท้าคู่นี้ แต่ข้อสำคัญ หนังซับในมีความนิ่ม นุ่มฟู และละเอียดมากเป็นพิเศษ ตัวหนังจะมีลักษณะที่ทำให้เราใส่สบายมาก ๆ
ในด้านความสวยงาม ก็ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะการเดินจักรอย่างละเอียดและตั้งใจ ทำให้งานด้านในก็เนี๊ยบเหมือนงานด้านนอก
ส่วนของ Counter Lining หรือซับในบริเวณหลังเท้าก็ทำมาจากหนัง Calfskin ทำให้ไม่เกาะที่รองเท้าเท่าที่ควร และส้นเท้าลื่นหลุดออกมาได้ง่าย ถือเป็นข้อเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ ของรองเท้าคู่นี้ แก้ไขได้ด้วยการมัดเชือกแน่น ๆ
ซอฟใน (Insole)
ตัวพื้นด้านในเป็นหนังฟอกฝาดตามสไตล์การตัดเย็บแบบ Goodyear welt ซึ่งจะเป็นแผ่นหนังทั้งแผ่น และมี Foot Bed แค่ครึ่งเดียว คือ บริเวณที่เป็นส้นเท้าที่มีโลโก้ของแบรนด์
ส่วนของหนังด้านในมีการขัดผิวหน้าเล็กน้อยให้มีผิวสัมผัสที่นุ่มลื่น ไม่แข็งบาดเท้า เพราะตามปกติ พื้นรองเท้าด้านในถ้าไม่ได้เจียปรับหน้ามาก่อนอาจจะมีการขีดข่วนฝ่าเท้าได้ แต่คู่นี้เก็บรายละเอียดด้านในจนเรียบเนียนไปหมด
เมื่อสอดเท้าเข้าไปด้านใน จะรู้สึกได้ทันที่ว่าการดึงพื้นมีการทำให้โค้งเป็นรูปเท้าเพราะใส่สบายมาก ร่วมกับหนังนอกและซับในลูกวัวแล้ว คือ ใส่สบายมาก ๆ
พื้นนอก (Outsole)
พื้นนอกของรองเท้าคู่นี้เป็น Rubber sole คือ เป็นพื้นสังเคราะห์ขึ้นมา มีโลโก้ของแบรนด์อยู่ที่ส่วนของอุ้งเท้า บริเวณหน้าเท้ามีการทำลวดลายพื้นนอกให้มีตัวอักษร J และ M อยู่ เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ J.M. WESTON
ส่วนของส้นก็เป็นยางแบบมีลวดลายเช่นกัน แต่จะมีรูเอาไว้สำหรับการตอกตะปูเพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับส่วนของส้นรองเท้า ทำให้พื้นแข็งแรงมาก
ส่วนของ Heel จะมีการทำเป็น Stack Heel สลับไปมาระหว่างชั้นหนังและชั้นยาง ทำให้รองเท้าคู่นี้รับแรงกระแทกในระหว่างเดินได้ดี ใส่นาน ๆ ก็ไม่เมื่อย
จากการใช้งาน ผมใส่รองเท้าคู่นี้มาหลายครั้ง รวมถึงวันขอแต่งงานภรรยาที่ต้องเดินเยอะเป็นพิเศษ ก็ไม่สึกเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังใส่สบายมาก ๆ ไม่ปวดเมื่อยเลย (วันนั้นเดินไป 2 หมื่นกว่าก้าว ^^)
การตัดเย็บ (Construction)
Goodyear welt คือเทคนิคการตัดเย็บของรองเท้าคู่นี้ ความแตกต่างคือการเลือกเส้นด้ายที่สีตัดกับสี Welt และ Outsole และมีลักษณะเป็นเส้นใหญ่และหนามาก (นิยมใช้ในการทำ Work Boots) มาใช้ในการเย็บพื้น ทำให้ดู Rugged มาก
การใช้ด้ายเส้นใหญ่ทำให้เย็บพื้นได้อย่างแข็งแรงมากขึ้น แต่อาจจะแลกมาด้วยความเมื่อยในการเดินเล็กน้อย แต่เนื่องจากเป็นพื้นยาง จึงทำให้แรงต้านน้อย การเดินจึงไม่ทำให้เมื่อยเลย
การตัดเย็บน่าจะใช้วิธีการเดินจักร เพราะความสม่ำเสมอของระยะระหว่างตะเข็บมีความเท่ากันทั้งฝ่าเท้า แม้ว่าจะเป็นส่วนที่จะเข้าโค้ง ก็ยังควบคุมระยะห่างได้ดีมาก ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย
Sizing
การวัดไซส์ของ J.M. WESTON 641 Golf Derby Dark Brown Soft Calfskin คู่นี้เป็นลักษณะ True size เพราะเบอร์ 8D UK ใส่พอดีกับเท้าของผม ที่มีขนาดเบอร์ 8 UK หน้าเท้าปกติ หรือประมาณ 9 US 42 EU
การ Sizing ของรองเท้าคู่นี้จึงทำได้ไม่ยากเพราะเลือกไซส์ที่เป็นไซส์มาตรฐานของเราก็เข้าได้ทันที
ความเห็นส่วนตัว
สมดุลระหว่างความสวยงามและความสบาย คือสิ่งที่ดีที่สุดของ Golf Derby ผมไม่เคยเจอรองเท้าที่ทำออกมาได้สวยงามขนาดนี้แล้วยังใส่สบายอยู่ เพราะส่วนใหญ่รองเท้าที่สวยมาก จะมีการเลือกวัสดุที่ทรงคงตัว และค่อนข้างแข็ง แต่คู่นี้คือ ใช้วัสดุที่ดีมาก แล้วยังใส่สบายอีกด้วย
ผมกล้ายืนยันเลยว่ารองเท้าคู่นี้ ผมไม่ได้เอามาสะสม แต่เอามาใช้งานก็ดีมาก ๆ เพราะความเป็นรองเท้าที่ Easy going ใส่ไปไหนก็ได้ แถมลุยได้ไม่กลัวเจ็บเท้า ผมเลยใส่บ่อยมากครับ
ช่องทางการจำหน่าย
แบรนด์ J.M. WESTON มีช่องทางการจำหน่ายออนไลน์อยู่ที่เว็บไซต์ของ J.M. WESTON
หากต้องการไปที่หน้าร้านก็จะมีที่ญี่ปุ่น ซึ่งราคาก็สูงเอาเรื่องอยู่นะครับ 770 Eur ประมาณ 30,000 ไทย พอ ๆ กับ John Lobb เลยครับ
สนับสนุน Shineable.co
สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจจะช่วยสนับสนุนค่าผลิตภัณฑ์ขัดรองเท้าให้กับผม สามารถบริจาคผ่านช่องทาง QR code นี้ได้เลยครับ
